ผู้ผลิตปูน-เหล็กตั้งรับ2ล้านล. เดินหน้าเพิ่มกำลังผลิตเต็มสูบ
ผู้ผลิต “ปูนซีเมนต์-เหล็กก่อสร้าง” เด้งรับเมกะโปรเจ็กต์ 2 ล้านล้าน “เอสซีจีทาทาสตีล-ปูนอินทรี-ทีพีไอ” เพิ่มกำลังการผลิตรับดีมานด์เพิ่มเต็มสูบ
ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” สำรวจความเคลื่อนไหวของผู้ประกอบการปูนซีเมนต์และเหล็กก่อสร้าง เตรียมรองรับความต้องการที่มีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้น หลังรัฐบาลมีแผนจะลงทุนโครงการใน 2 ล้านล้านบาท โดยประเมินว่าจะมีการใช้วัสดุก่อสร้าง 60-70% ของค่าก่อสร้าง หรืออยู่ที่กว่า 800,000 ล้านบาท และล่าสุดพบว่ากลุ่มผู้ผลิตปูนซีเมนต์ อาทิ เอสซีจี,ปูนอินทรี และผู้ผลิตเหล็กค่ายทาทาสตีล เตรียมจะขยายกำลังผลิตเพิ่มเติม
นายกานต์ ตระกูลฮุน กรรมการผู้จัดการใหญ่เอสซีจี (SCG) ประเมินว่า ความต้องการปูนซีเมนต์จากโครงการเมกะโปรเจ็กต์ของภาครัฐ ในโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานจากเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะมีความต้องการใช้ปูนซีเมนต์สูงขึ้นแต่คงไม่มากนัก มั่นใจว่ากำลังการผลิตปูนซีเมนต์ในประเทศของกลุ่มเอสซีจีที่มีอยู่ 23 ล้านตัน เพียงพอกับโครงการก่อสร้างของรัฐแน่นอน โดยจะขยายกำลังการผลิตโรงงานเก่าเพิ่ม จากปัจจุบันมีกำลังผลิตอยู่ที่ 23 ล้านตัน แต่ผลิตจริงประมาณ 20 ล้านตัน
ร.อ.ท.คันธนิธิ์ สุคนธทรัพย์ รองประธานด้านธุรกิจสัมพันธ์ บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือ SCCC กล่าวว่า บริษัทยังไม่มีแผนรับมือ แต่ก็พร้อมเดินหน้าขยายกำลังการผลิตได้ทันทีหากโครงการเริ่มประมูล ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตรวมอยู่ที่ 14 ล้านตันต่อปี จาก 3 โรงงาน จำนวน 6 เตาเผา ในจำนวนนี้อยู่ระหว่างการปรับปรุงเครื่องจักรสำหรับเตาเผาที่ 2 ในโรงงานผลิตที่ 1 เพื่อให้กลับมาผลิตได้ใหม่อีกครั้ง คาดว่าจะเดินเครื่องผลิตได้ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า หากตลาดมีความต้องการที่เพิ่มขึ้นก็สามารถเพิ่มกำลังการผลิตให้เต็ม 100% ได้ทันที เพราะตอนนี้ใช้ไปแค่ 80%
แหล่งข่าวจากบริษัท ทีพีไอ โพลีน จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตและจำหน่ายปูนซีเมนต์ “ทีพีไอ” เปิดเผยว่า ใช้เงินลงทุนกว่า 150 ล้านยูโร ก่อสร้างโรงงานผลิตปูนซีเมนต์สายการผลิตที่ 4 ขนาดกำลังการผลิต 1.2 หมื่นตันต่อวัน จากปัจจุบันผลิตอยู่ที่ 9 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับความต้องการใช้ปูนในประเทศโดยมีแรงผลักดันหลักมาจากโครงการของภาครัฐ เมื่อโรงงานใหม่แล้วเสร็จจะทำให้อีก 2-3 ปีข้างหน้าทีพีไอมีกำลังการผลิตรวม 12 ล้านตันต่อปี
นายทรงศักดิ์ ปิยวรรณรัตน์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายการตลาดและการขาย บริษัท ทาทาสตีล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ความต้องการใช้เหล็กเส้นก่อสร้างในประเทศจะเพิ่มสูงขึ้น หากรัฐบาลอนุมัติแผนการลงทุนโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท ตอนนี้กำลังการผลิตรวมในประเทศยังเพียงพอจะรองรับต่อความต้องการ เนื่องจากโรงงานผลิตยังมีกำลังการผลิตอยู่อีกประมาณ 20-30% ขณะที่ความต้องการใช้เหล็กเส้นจริงมีเพียง 2 ล้านตันต่อปี
“เชื่อว่าการใช้เหล็กก่อสร้างจะเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะการลงทุนของรัฐมีระยะเวลา 7 ปี กำลังการผลิตขณะนี้เพียงพอต่อดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งบริษัทเตรียมความพร้อมไว้แล้ว จะขยายกำลังการผลิตให้เต็ม 100% จากปัจจุบันผลิตเพียง 80%”